ศัลยกรรมยกคิ้วคืออะไร ?
ศัลยกรรมยกคิ้ว คือ การผ่าตัดเพื่อปรับตำแหน่งของคิ้วให้ดูยกสูงขึ้น เป็นการแก้ไขปัญหาคิ้วตก ซึ่งมักเกิดจากการเสื่อมของกล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณหน้าผากเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าไม่สดใส เหนื่อยล้า และดูมีอายุ ศัลยกรรมยกคิ้วจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า ทำให้ดวงตาดูกว้างและสดใสขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าผากและหว่างคิ้วได้อีกด้วย
ศัลยกรรมยกคิ้วมีเทคนิคอะไรบ้าง ?
ศัลยกรรมยกคิ้วมีเทคนิคหลายรูปแบบ ซึ่งเลือกใช้ตามสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ เทคนิคที่ได้รับความนิยม มีดังนี้
- เทคนิค Direct Brow Lift คือ การยกคิ้วโดยตรงบริเวณขอบคิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคิ้วตกอย่างชัดเจน การผ่าตัดชนิดนี้จะทำให้คิ้วสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่ข้อเสียคืออาจมีรอยแผลเป็นที่ขอบคิ้ว
- เทคนิค Endoscopic Brow Lift คือ เทคนิคนี้ใช้กล้องส่องขนาดเล็กช่วยในการยกคิ้วผ่านการเจาะรูเล็กๆ บริเวณไรผม ทำให้ไม่ต้องกรีดแผลยาว วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและไม่ต้องการรอยแผลชัดเจน
- เทคนิค Endotine คือ การใช้วัสดุพิเศษที่เรียกว่า Endotine ซึ่งเป็นตัวช่วยยึดกล้ามเนื้อคิ้วให้ยกสูงขึ้น ดีไซน์รูปทรงคิ้วได้อย่างแม่นยำ ช่วยในการลดปัญหาริ้วรอยได้ดีกว่า Suture ใช้ระยะเวลาผ่าตัดค่อนข้างสั้น และวัสดุ Endotine สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานมากกว่า 10 ปี
ศัลยกรรมดึงหน้าคืออะไร ?
ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) คือ การผ่าตัดที่เน้นการดึงกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เพื่อลดเลือนริ้วรอยและลดความหย่อนคล้อยได้ดี ศัลยกรรมนี้ส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่ผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพและสูญเสียความยืดหยุ่น ดังนั้นการดึงหน้าจึงช่วยให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับ กลับมาดูเต่งตึง และอ่อนเยาว์มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาผิวหนังส่วนล่างของใบหน้าที่มีหย่อนคล้อยได้ดีอีกด้วย เช่น บริเวณแก้ม บริเวณคาง รวมไปถึงบริเวณลำคอ
ศัลยกรรมดึงหน้าสามารถทำส่วนไหนได้บ้าง ?
การทำศัลยกรรมดึงหน้า สามารถเลือกทำเฉพาะส่วนได้ หรือ สามารถทำร่วมกันก็ได้เช่นกัน มีดังนี้
- การดึงหน้าผาก
- การดึงหน้าส่วนกลาง
- การยกโหนกแก้ม
- การดึงหน้าส่วนล่าง
- การยกกระชับเหนียงใต้คาง
- การดึงบริเวณลำคอ
และสามารถทำควบคู่ไปกับการทำศัลยกรรมอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น การผ่าตัดถุงใต้ตา การผ่าตัดหนังตา การเสริมจมูก การดูดไขมันและการเติมไขมัน เป็นต้น
ศัลยกรรมยกคิ้ว ดึงหน้า เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีความหย่อนคล้อย จาการสูญเสียคอลลาเจน
- ผู้ทีมีริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผากและระหว่างคิ้ว
- ผู้ที่มีคิ้วตก ทำให้หน้าดูเหนื่อยล้า
- ผู้ที่มีปัญหาคิ้วไม่เท่ากัน
- ผู้ที่มีระยะระหว่างคิ้วและดวงตา แคบเกินไป
- ผู้ที่มีกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ทำไมถึงนิยมทำศัลยกรรมยกคิ้ว ดึงหน้า คู่กัน ?
การทำศัลยกรรมยกคิ้วและดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่มักทำควบคู่กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันในการฟื้นฟูใบหน้า การยกคิ้วช่วยให้ใบหน้าส่วนบนดูกระชับและสดใส ส่วนการดึงหน้าช่วยแก้ปัญหาส่วนล่าง เช่น ความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มหรือคอ เมื่อทำร่วมกัน จะช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลและมีความอ่อนเยาว์ทั้งใบหน้า ไม่เพียงเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมยกคิ้ว ดึงหน้า
- ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษาอย่างละเอียด เพื่อทำการตรวจสอบสภาพร่างกายและวางแผนการผ่าตัดศัลยกรรมยกคิ้ว ดึงหน้าอย่างเหมาะสม
- งดรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี เป็นต้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัว หรือประวัติการแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
วิธีดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมยกคิ้ว ดึงหน้า
- ประคบเย็นหลังผ่าตัดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 วัน
- หลังผ่าตัดเสร็จ เจ้าหน้าที่พยาบาล จะพันผ้ารัดศีรษะเอาไว้ จำเป็นต้องพันประมาณ 3 วันหลังการผ่าตัด
- ป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำในช่วง 3 วันแรก
- นอนหงาย นอนหมอนสูง โดยให้ศรีษะสูงกว่าลำตัว ประมาณ 7 วันแรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของซิลิโคน
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- งดทานอาหารหมักดอง หรือ อาหารที่มีรสเผ็ดจัด เพราะอาจจะส่งผลต่อการอักเสบของแผลได้
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือยกของหนัก
- ทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
- เข้าพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามดูอาการเป็นระยะ